23 มิ.ย. 2556

Convergence & Divergence

Divergence คือเกิดเมื่อสัญญาณทางเทคนิคกับราคานั้นสวนทางกัน โดยแบ่ง Divergence ได้เป็น 2 แบบ

1. Bullish divergence คือ  ส่วนของกราฟราคานั้นมี bottom(ขอย้ำว่า bottom นะครับ) ใหม่ที่ต่ำกว่า bottom อันเก่า แต่สัญญาณทางเทคนิคกลับมี bottom  ในลักษณะที่ bottom ใหม่สูงกว่าเก่า แบบนี่เรียกว่าเป็นการสวนทางกัน ซึ่งในทางเทคนิคแบบนี้อนาคตอาจจะมีการกลับตัวขึ้นได้

2.Bearish divergence คือ ส่วนของกราฟราคานั้นมี top(ขอย้ำว่า top นะครับ) ใหม่ที่สูงกว่า top อันเก่า แต่สัญญาณทางเทคนิคมี top  ในลักษณะที่ top ใหม่ต่ำกว่าเก่า แบบนี่เรียกว่าเป็นการสวนทางกัน ซึ่งในทางเทคนิคแบบนี้อนาคตอาจจะมีการกลับตัวลงได้

Convergence คือ เกิดเมื่อสัญญาณทางราคาและเทคนิคไปในทางเดียวกัน โดยแบ่ง convergence ได้เป็น 2 แบบ

1.Bullish convergence คือ ส่วนของกราฟราคานั้นมี bottom(ขอย้ำว่า bottom นะครับ) ใหม่ที่สูงกว่า bottom อันเก่า และสัญญาณทางเทคนิคมี bottom  ในลักษณะที่ bottom ใหม่สูงกว่าเก่า แบบนี่เรียกว่าเป็นการไปทางเดียวกัน ซึ่งในทางเทคนิคแบบนี้บอกว่าอนาคตอาจจะยังไม่มีการกลับตัว เกิดเมื่อขึ้นแรงๆอย่างต่อเนื่อง

2.Bearish convergence คือ ส่วนของกราฟราคานั้นมี top(ขอย้ำว่า top นะครับ) ใหม่ที่ต่ำกว่า top อันเก่า และสัญญาณทางเทคนิคมี top   ในลักษณะที่ top ต่ำกว่าเก่า แบบนี่เรียกว่าเป็นการไปทางเดียวกัน ซึ่งในทางเทคนิคแบบนี้บอกว่าอนาคตอาจจะยังไม่มีการกลับตัว เกิดเมื่อลงแรงๆอย่างต่อเนื่อง

สัญญาณทางเทคนิคเช่น macd  stoch.  rsi  เป็นต้น


ท่าจะซื้อหุ้นจริงๆ แล้ว มีทริกอยู่ไม่กี่ทริกเอง

ท่าจะซื้อหุ้นจริงๆ แล้ว มีทริกอยู่ไม่กี่ทริกเอง 

1. หา bullish divergence + candle stick ดูดี ๆ
2. หาหุ้นที่ ลง ด้วย volume ขายลดในขณะหุ้นนั้นเป็นขาขึ้น
3. ถ้าอยากเล่นหุ้นที่เด้งแรง ๆ ให้หาหุ้นที่ bollinger band มี การบีบตัวเยอะ ๆ
4. หาหุ้นที่เป็น hammer volume ดันกลับเยอะ

แค่ประมาณ 4 ทริก นี้ คุณ ก็สามารถ เอาไปปรับเปลี่ยนใช้งานได้แล้ว โดยต้องคำนึงถึง แนวรับแนวต้านเป็นหลัก ตลอดเวลา

ไม่จำเป็นต้องครบทั้ง 4 ข้อก็ได้


- adbat

facebook.com/thaistocktrader